วิธีการปลูกผักบุ้งฝรั่ง IPO-201

ดอกมีขนาดใหญ่ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับรั้ว ดอกบานในตอนเช้า และจะหุบในตอนบ่าย

วิธีการเพาะเมล็ด

  1. เตรียมน้ำสำหรับผสมวัสดุเพาะโดยผสม โพรพาโมร์คาร์บ อัตรา 0.4 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร หรือเมทาแลกซิล เพื่อป้องกันโรคเน่าคอดิน
  2. ผสมน้ำที่เตรียมไว้กับพีทมอส โดยค่อยๆเติมน้ำทีละน้อย  คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นลองบีบวัสดุเพาะเพื่อทดสอบว่า น้ำเข้ากับวัสดุเพาะได้ดีหรือไม่ หากบีบน้ำแล้วมีน้ำออกมาเล็กน้อยตามร่องมือ และวัสดุเพาะเกาะกันเป็นก้อนดีถือว่าใช้ได้ หากมีน้ำไหลออกมามากเกินไป ให้ผสมวัสดุเพาะเพิ่ม หรือไม่มีน้ำซึมออกมาแสดงว่าน้ำน้อยเกินไป ให้เพิ่มน้ำและบีบทดสอบอีกครั้ง 
  3. นำวัสดุเพาะที่เตรียมไว้ใส่ถาดเพาะให้เต็มหลุม กระแทก ถาดเพาะ 1 ครั้งเพื่อให้วัสดุเพาะลงถึงก้นหลุม เติมวัสดุเพาะให้เต็ม แล้วปาดหน้าดินถาดเพาะให้เรียบ พอดีกับหลุม
  4. นำถาดเพาะเปล่ามาวางบนถาดเพาะที่ใส่วัสดุเพาะแล้ว จากนั้นกดถาดเปล่าเพื่อทำหลุม โดยหลุมที่กดควรมีขนาดลึกพอดีกับเมล็ดดาวเรืองฝรั่งเศส ประมาณ 0.5 ซม.
  5. หยอดเมล็ดพันธุ์ ผักบุ้งฝรั่ง 1 เมล็ดต่อ 1 หลุม นำวัสดุเพาะที่ยังไม่ได้ผสมน้ำมาใส่ตะกร้าเพื่อร่อนกลบเมล็ดโดยกลบให้มิดเมล็ด เนื่องจากเมล็ด ผักบุ้งฝรั่ง ไม่ต้องการแสงในการงอก และเป็นการรักษาสภาพความชื้นในการงอกของเมล็ด
  6. พ่นสารเคมี โพรพาโมคาร์บ อัตรา 1 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร หรือเมทาแลกซิล 1 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร พ่นให้ทั่วถาด เพื่อป้องโรคเน่าคอดินอีกครั้ง นำถาดเข้าไปในบริเวณที่พรางแสง 80%-90% และรักษาความชื้นโดยการพ่นน้ำ อย่าให้ถาดเพาะแห้งจนเกินไปเพราะจะทำให้เมล็ดไม่งอกหรือแฉะจนเกินไป อาจทำให้เป็นโรคเน่าคอดินในระยะงอกของเมล็ด
  7. การรดน้ำควรรดในช่วงเช้า หรือสังเกตุเห็นว่าดินแห้ง หากให้น้ำมากเกินไป จะก่อให้เกิดความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเชื้อราที่จะตามมา การรดน้ำควรใช้หัวสเปรย์ขนาดเล็ก เพื่อป้องกันในช่วงเพาะกล้าเมล็ดกระจายออก นอกถาด

การเตรียมดินปลูก

ดินปลูกสำหรับบรรจุลงถุงหรือกระถาง

         การเตรียมดินปลูกต้องพิถีพิถันพอสมควร  เพราะไม้ดอกส่วนใหญ่มีอายุการออกดอกสั้น โดยเฉพาะไม้ดอกที่ไวต่อแสงจะออกดอกทันทีเมื่อครบอายุและต้นสมบูรณ์  ดินปลูกต้องเป็นดินโปร่ง ร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง ระบายน้ำดี  ในขณะเดียวกันอุ้มความชื้นได้ดีพอสมควร

สูตรที่ 1 ส่วนประกอบดินผสมโดยทั่วไป  ได้แก่  ดินร่วน  ปุ๋ยหมัก  แกลบดิบ   แกลบเผา   ขุยมะพร้าว 

อัตราส่วน  1 : 1 : 2 : 2 : 2

สูตรที่ 2 ส่วนประกอบดินผสมโดยทั่วไป  ได้แก่ แกลบดิบ  ขุยมะพร้าว  ดิน   อัตราส่วน 3 : 5 : 2

สูตรที่ 3 ขุยมะพร้าว  ทรายหยาบ  + โดโลไมท์  อัตราส่วน 3 : 1 +โดโลไมท์ 

อัตราส่วนผสมรวมกัน 240 ลิตร( ขุยมะพร้าว 180 ลิตร + ทรายหยาบ 60 ลิตร ใช้โดโลไมท์ 0.5 กก.)

            หรือ ทั้งนี้สามารถดัดแปลงสูตรได้ตามความเหมาะสม ตามประสบการณ์ หรือคู่มืออื่นๆ

การย้ายปลูกต้นกล้าลงกระถางหรือถุงดำ  

หลังจาก การเพาะเมล็ดไปแล้วประมาณ 7-10 วัน ให้สังเกต ต้นกล้าเมื่อมีใบจริง 2 คู่ขึ้นไป ต้นกล้าโตพอที่จะย้ายได้  นำต้นกล้าลงในถุงพลาสติกหรือกระถาง  โดยการเจาะหลุมดินให้ลึกและกว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา แล้วนำต้นกล้าหยอดลงในหลุมแล้วกลบด้วยดิน  หากต้นกล้ายืดหรือยาวกว่าปกติให้เจาะหลุมลึกขึ้นอีก หยอดต้นกล้าลงหลุมและกลบให้ชิดถึงใบจริงคู่แรก ช่วยแก้ปัญหาต้นกล้ายืดผิดปกติได้

หลักการปฏิบัติในการย้ายปลูก

  1. ย้ายต้นกล้าในตอนที่แดดอ่อนและในร่ม
  2. เตรียมแปลงปลูกอย่างดี รดน้ำแปลงให้ดินชื้นก่อนการย้ายปลูก
  3. ก่อนย้ายต้นกล้า ให้รดน้ำต้นกล้าให้ชุ่มก่อนทำการย้ายปลูก ดึงต้นกล้าเบาๆหรือใช้ใช้แหนบคีบ พร้อมดินหุ้มรากไปให้มากๆ เพื่อรากจะได้รับความกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
  4. ปลูกในหลุมที่กว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา และควรปลูกให้ใบจริงอยู่ใกล้กับระดับดินมากที่สุด เพื่อที่เวลารดน้ำต้นกล้า จะไม่หักล้มง่าย และแก้ปัญหาต้นกล้ายืด
  5. รดน้ำให้ชุ่มโดยใช้บัวรดแบบฝอยละเอียด

ขั้นตอนการเตรียมเลื้อยให้ดอกผักบุ้งฝรั่งยึดเกาะ

จิงๆขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ของแต่ละคนบางคนอาจจะใช้ ประตูหน้าบ้านที่เป็นเหล็กมัดๆ หรือเหล็กดัดต่างๆ แต่ทางทีมงานของเราเพื่่อความจะปลูกโชวเต็มๆเราใช้ตาข่าย

ให้นำต้นผักบุ้งฝรั่งที่ย้ายลงดินแล้วคืออยู่ในกระถางแล้ว มาไว้ใต้สิ่งที่เราจะให้เจ้าดอกผักบุ้งฝรั่งมันเลื้อย โดยอย่าให้ห่างมาก และมีแสงแดดส่องถึง คอยรดน้่ำทุกวันเราจะสังเกตุได้ว่า

เค้าจะมีแขนออกมาเพื่อยึดเกาะเมื่อความยาวได้ที่พาดถึงที่เราจะให้เค้าเลื้อยแล้วให้เราช่วยเค้าโดยการใช้มือนำแขนของเค้าไปพาดตรงตำแหน่งที่ต้องการจากนั้นก็รถน้ำทุกวันและรอ ลำต้นโตออกดอกได้เลย

*** ดอกผักบุ้งฝรั่งจะบานในยามเช้า แดดอ่อนๆ ไปจนสายๆ ในวันที่แดดแรงมากๆดอกจะหุบ 

การดูแลรักษา     :   เลี้ยงง่าย แทบไม่ต้องดูแลอะไรเลย รดน้ำวันละครั้งก็พอแล้ว แต่อาจจะมีตัดแต่งบ้างเวลาที่รู้สึกว่าเริ่มรก

ข้อควรระวัง        :  เห็นว่าดอกสีสวย ทำซุ้มสวยแบบนี้ แต่ต้องระวังให้ดีเพราทุกส่วนของเจ้าฝรั่งบุ้งฝรั่งเป็นพิษ ทั้ง เถา ใบ ดอกโดยเฉพาะที่เมล็ด มีพิษทั้งนั้น เพราะฉะนั้นถ้าที่บ้านมีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง เจ้าต้นนี้ก็อาจจะไม่เหมาะก็ได้ เพราะถ้าไม่ระวัง เด็กๆ หรือ สัตว์เลี้ยงอาจจะแอบไปเด็ดหรือกัดเล่นตามลำพังได้

การให้ปุ๋ย สูตรน้ำ

  • ระยะที่ 1  เสริมสร้างการเจริญเติบโตของราก  ลำต้นและใบ  หลังจากย้ายกล้าแล้วประมาณ 7 วัน  ให้ปุ๋ยไนโตรเจนสูง  เช่น สูตร  15 – 0 – 0 หรือ 25 – 7 – 7  ในอัตรา 1  ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ  20   ลิตร รดทุกๆ  5 – 7  วัน  ประมาณ  2 – 3  ครั้ง
  • ระยะที่ 2   ช่วงการเจริญเติบโตถึงระยะสังเกตเห็นตุ่มดอก  ให้ปุ๋ยสูตร 15 - 15 - 15  อัตรา  75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ  ละลายน้ำ   20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน  จนกระทั่งดอกเริ่มบาน
  • ระยะที่ 3  เมื่อดอกเริ่มบาน  ให้ปุ๋ยสูตร ให้ปุ๋ยสูตร 8 – 24 – 24  หรือ 13 – 13 – 21  อัตรา  75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ  ละลายน้ำ   20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน  ต่อเนื่องตลอดอายุการให้ดอก

ปุ๋ยเม็ด

สามารถให้ปุ๋ยสูตรต่างๆ เหมือนสูตรน้ำ ระยะที่ 1 – 3  อัตรา 10 กรัม/ต้น   ทุกๆ  7 วัน  โดยฝังลงในดินหรือใช้ดินกลบ

ข้อควรระวัง :  

  • การให้ปุ๋ยเม็ด ระวังอย่าให้โดนโคนต้นเพราะอาจทำให้เน่าและไหม้ได้ ควรฝังลงดินหรือใช้ดินกลบ

  • การให้ปุ๋ยน้ำ อาจสัมผัสโดนใบและทำให้ใบไหม้ได้ ดังนั้นเมื่อรดปุ๋ยแล้วให้รดน้ำเพื่อล้างใบตาม

หมายเหตุ :  หากไม่สามารถหาปุ๋ยได้ตามสูตร สามารถใช้ปุ๋ยสูตร  15 – 15 – 15 หรือสูตรเสมอทดแทนได้ทุกระยะ  แต่การเจริญเติมโตอาจไม่ดีเท่าสูตรที่แนะนำ  หรือสำหรับบางท่านที่ไม่สะดวกในการให้ปุ๋ยบ่อยครั้ง สามารถใช้ปุ๋ยละลายช้า สูตร  14 – 14 – 14  แนะนำเป็นตัว เนเจอร์ โค้ท สามารถปลดปล่อยธาตุอาหารพืช ได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ นานถึง 3 เดือน แต่จะไม่ดีเท่าการให้ปุ๋ยตามระยะ

Short URL :