ดอกหลายสีคละกัน ช่อดอกย่อยมีการเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ต้นเตี้ย ออกดอกเร็ว ในฤดูหนาวจะออกดอกเร็วกว่าปกติ เนื่องจากเป็นวันสั้น ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี
การเพาะเมล็ดมี 2 วิธี
การเพาะเมล็ดในตะกร้า
- เตรียมวัสดุเพาะ 2 ส่วน ทรายละเอียด 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- เตรียมตะกร้า และนำกระดาษหนังสือวางในตะกร้า เพื่อกันวัสดุเพาะไหลออก
- นำวัสดุเพาะที่เตรียมไว้บรรจุในตะกร้า ความหนาประมาณ ¾ ของความสูงตะกร้า
- นำไม้ทำร่อง ความลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างร่อง ประมาณ 3 เซนติเมตร
- หยอดเมล็ดลงในร่อง อย่าให้หนาแน่นเกินไป แล้วกลบเมล็ดหนาประมาณ 0.4 เซนติเมตร แล้วยกตะกร้าไว้ในที่พรางแสง
- ดูแลรดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้วัาดุเพาะมีความชื้นเพียงพอ เมื่อต้นกล้า อายุ 5-6 วัน จึงย้ายลงในถาดเพาะต่อไป
- เมื่อกล้าอายุประมาณ 7 วัน ย้ายต้นกล้าลงในถาดเพาะ
การเพาะเมล็ดในถาดเพาะ
- ทำการผสมพีทมอสกับสารเคมีกันเชื้อรา Propamocarb hydrochloride (อัตรา 0.4 ซี.ซี ต่อน้ำ 1 ลิตร) คลุกเคล้าให้เข้ากันสังเกตวัสดุเพาะจับตัวเป็นก้อนและมีน้ำซึมตามร่องนิ้วเล็กน้อย
- ใส่วัสดุเพาะลงในตะกร้าหนาประมาณครึ่งนิ้ว ปาดผิวหน้าวัสดุเพาะให้เรียบ พ่นน้ำให้ชุ่ม
- ใช้ไม้บรรทัดเกลี่ยผิววัสดุให้เรียบ ทำร่องรูปตัววีลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 3 เซนติเมตร
- ทำการหว่านในตะกร้าให้กระจายอย่าให้ติดกันเป็นกระจุกเพราะจะยากต่อการย้ายลงถาดเพาะ
- ย้ายไปไว้ในทีพรางแสง 80 – 90% พ่นน้ำฝอยละเอียด และอย่าปล่อยให้วัสดุแห้งจะทำให้เมล็ดไม่งอกได้ ในระยะนี้จะใช้เวลาประมาณ 4-5 วันในการงอก
- เมื่อต้นกล้ามีใบเลี้ยง 1 คู่แล้วซึ่งจะใช้ระยเวลาประมาณ 7-8วัน จึงทำการย้ายต้นกล้าลงถาดเพาะต่อไป
การย้ายปลูก
การเตรียมดินปลูกต้องพิถีพิถันพอสมควร เพราะไม้ดอกส่วนใหญ่มีอายุการออกดอกสั้น ดินปลูกต้องเป็นดินโปร่ง ร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง ระบายน้ำดี ในขณะเดียวกันอุ้มความชื้นได้ดีพอสมควร มีความเป็นกรดเล็กน้อย มี pH ประมาณ 6.5 – 7 ส่วนผสมของดินปลูกควรหาง่ายในท้องถิ่น
สูตรที่1 ส่วนประกอบดินผสม ได้แก่ ดินร่วน ปุ๋ยหมัก แกลบดิบ แกลบเผา ขุยมะพร้าว อัตราส่วน 1 : 1 : 2 : 2 : 2
สูตรที่ 2 ส่วนประกอบดินผสมโดยทั่วไป ได้แก่ แกลบดิบ ขุยมะพร้าว ดิน อัตราส่วน 3 : 5 : 2
สูตรที่ 3 ขุยมะพร้าว ทรายหยาบ + โดโลไมท์ อัตราส่วน 3 : 1 +โดโลไมท์
อัตราส่วนผสมรวมกัน 240 ลิตร ( ขุยมะพร้าว 180 ลิตร + ทรายหยาบ 60 ลิตร ใช้โดโลไมท์ 0.5 กก.)
หรือ ทั้งนี้สามารถดัดแปลงสูตรได้ตามความเหมาะสม ตามประสบการณ์ หรือคู่มืออื่นๆ
การย้ายปลูกต้นกล้าลงกระถางหรือถุงดำ
-
หลังจากเย้ายต้นกล้าลงถาดเพาะไปแล้วประมาณ 12-15 วัน ให้สังเกต ต้นกล้าเมื่อมีใบจริง 2-3 คู่ขึ้นไป หรือให้สังเกตุดูปริมาณรากว่าหุ้มกับวัสดุเพาะดีแล้ว หรือต้นกล้าจะโตพอที่จะย้ายได้
-
นำต้นกล้าลงในถุงพลาสติก หรือกระถาง โดยการเจาะหลุมดินให้ลึกและกว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา
-
นำต้นกล้าหยอดลงในหลุมแล้วกลบด้วยดิน หากต้นกล้ายืดหรือยาวกว่าปกติให้เจาะหลุมลึกขึ้นอีก หยอดต้นกล้าลงหลุมและกลบให้ชิดถึงใบจริงคู่แรก ช่วยแก้ปัญหาต้นกล้ายืดผิดปกติได้
-
ดูแลต้นกล้าจนกระทั่งต้นโต
การย้ายปลูกต้นกล้าลงแปลง
- หลังจากย้ายลงถาดเพาะได้ประมาณ 12-15 วัน มีใบจริง 2-3 คู่ใบขึ้นไป หรือให้สังเกตุดูปริมาณรากว่าหุ้มกับวัสดุเพาะดีแล้ว
- ควรย้ายปลูกในช่วงเย็น ( แดดอ่อนๆ) เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำของต้นกล้าส่งผลให้ต้นกล้ามีการตั้งตัวได้ดีหลังการย้ายปลูก
- ดึงต้นกล้าเบาๆ พร้อมดินหุ้มรากให้มากที่สุด ตุ้มไม่แตก เพื่อรากจะได้รับความกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
- นำต้นกล้าลงในถุงพลาสติก หรือกระถาง โดยการเจาะหลุมดินให้ลึกและกว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา
- ปลูกในหลุมที่กว้างพอดีกับดินที่หุ้มรากมา และควรปลูกให้ใบจริงอยู่ใกล้ระดับดินมากที่สุด
- ดูแลการให้น้ำ และรดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา
การให้น้ำ ควรรดน้ำทุกวันในตอนเช้าหรือเย็น หากรดน้ำในเวลาเย็นควรให้น้ำ ที่ค้างอยู่บนใบแห้งก่อนพระอาทิตย์ตกดิน และเมื่อมีดอกบาน อย่ารดน้ำให้ถูกดอกเพราะอาจทำให้ดอกช้ำหรือเน่าได้ การให้น้ำควรให้สภาพดินชุ่มสลับแห้ง ไม่ควรให้ชุ่มตลอดเวลา เพราะอาจเป็นสาเหตุของโรครากเน่า โคนเน่า และทำให้ระบบรากไม่พัฒนา ส่งผลให้ต้นแคระแกร็น ไม่สมบูรณ์ สามารถสังเกตสีของดินหรือวัสดุเพาะ หากมีสีดำหรือน้ำตาลเข้ม แสดงว่าดินยังชุ่มหรือมีน้ำอยู่ เมื่อดินเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลอ่อน แห้งแข็ง แสดงว่าดินขาดน้ำ
การให้ปุ๋ย
ปุ๋ยสูตรน้ำ
ระยะที่ 1 เสริมสร้างการเจริญเติบโตของราก ลำต้นและใบ หลังจากย้ายกล้าแล้วประมาณ 7 วัน ให้ปุ๋ยไนโตรเจนสูง เช่น สูตร 15 – 0 – 0 หรือ 25 – 7 – 7 ในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 20 ลิตร รดทุกๆ 5 – 7 วัน ประมาณ 2 – 3 ครั้ง
ระยะที่ 2 ช่วงการเจริญเติบโตถึงระยะสังเกตเห็นตุ่มดอก ให้ปุ๋ยสูตร 15 - 15 - 15 อัตรา 75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน จนกระทั่งดอกเริ่มบาน
ระยะที่ 3 เมื่อดอกเริ่มบาน ให้ปุ๋ยสูตร ให้ปุ๋ยสูตร 8 – 24 – 24 หรือ 13 – 13 – 21 อัตรา 75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน ต่อเนื่องตลอดอายุการให้ดอก
ปุ๋ยเม็ด
สามารถให้ปุ๋ยสูตรต่างๆ เหมือนสูตรน้ำ ระยะที่ 1 – 3 อัตรา 10 กรัม/ต้น ทุกๆ 7 วัน โดยฝังลงในดินหรือใช้ดินกลบ
ข้อควรระวัง :
-
การให้ปุ๋ยเม็ด ระวังอย่าให้โดนโคนต้นเพราะอาจทำให้เน่าและไหม้ได้ ควรฝังลงดินหรือใช้ดินกลบ
-
การให้ปุ๋ยน้ำ อาจสัมผัสโดนใบและทำให้ใบไหม้ได้ ดังนั้นเมื่อรดปุ๋ยแล้วให้รดน้ำเพื่อล้างใบตาม
หมายเหตุ : หากไม่สามารถหาปุ๋ยได้ตามสูตร สามารถใช้ปุ๋ยสูตร 15 – 15 – 15 หรือสูตรเสมอทดแทนได้ทุกระยะ แต่การเจริญเติมโตอาจไม่ดีเท่าสูตรที่แนะนำ หรือสำหรับบางท่านที่ไม่สะดวกในการให้ปุ๋ยบ่อยครั้ง สามารถใช้ปุ๋ยละลายช้า สูตร 14 – 14 – 14 แนะนำเป็นตัว เนเจอร์ โค้ท สามารถปลดปล่อยธาตุอาหารพืช ได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ นานถึง 3 เดือน แต่จะไม่ดีเท่าการให้ปุ๋ยตามระยะ
Short URL :