วิธีการปลูกดอกบลูซัลเวีย SAL-504

ลักษณะดอกเป็นช่อสีม่วง ช่อยาวประมาณ 20-25 ซม. อายุออกดอกประมาณ 30 วัน หลังย้ายปลูกลงแปลง ช่อดอกคงทน และออกดอกต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ ปลูกได้ทุกฤดูกาล ทนต่อสภาพอากาศร้อนและฝนได้ดี ควรมีการเด็ดยอด  เพื่อให้ทรงพุ่มแน่น 

การเพาะเมล็ดบลูซัลเวียมี 2 วิธี 

การเพาะเมล็ดในตะกร้า

  1. เพาะเมล็ดในตะกร้าพลาสติก ขนาด 29 x 36 เซนติเมตร หรือใหญ่กว่านี้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเมล็ดที่ใช้เพาะ 
  2. ตัดกระดาษหนังสือพิมพ์วางรอบตะกร้าโดยตัดกระดาษให้พอดีกับขอบตะกร้าเพื่อป้องกันวัสดุเพาะร่วงแล้วนำวัสดุเพาะใส่ตะกร้าประมาณ ¾  ของความสูงตะกร้า 
  3. 1ใช้ไม้บรรทัดเกลี่ยผิววัสดุให้เรียบ ทำร่องรูปตัววีลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 3 เซนติเมตร
  4. หยอดเมล็ดบลูซัลเวียลงในร่องอย่าให้แน่นเกินไปแล้วกลบเมล็ดหนาประมาณ 0.4 เซนติเมตร ยกตะกร้าไว้ที่พรางแสง 
  5. 1ดูแลรดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้วัสดุเพาะมีความชื้นเพียงพอ เมื่อต้นกล้าอายุ 6-7 วันจึงย้ายต้นกล้าลงถาดหลุมต่อไป 

การเพาะเมล็ดในถาดเพาะ  

  1. ทำการผสมพีทมอสกับสารเคมีกันเชื้อรา Propamocarb hydrochloride (อัตรา 0.4 ซี.ซี ต่อน้ำ 1 ลิตร) คลุกเคล้าให้เข้ากันสังเกตวัสดุเพาะจับตัวเป็นก้อนและมีน้ำซึมตามร่องนิ้วเล็กน้อย
  2. นำพีทมอสที่ผสมแล้วใส่ถาดหลุมให้เต็มหลุม
  3. ทำการเจาะหลุมโดยใช้ถาดเปล่าวางบนถาดที่จะทำการเพาะ  กดลงอย่างเบามือ โดยหลุมที่เกิดจะต้องลึกพอประมาณ  เมื่อเราวางเมล็ดลงไปยังสามารถเห็นเมล็ดได้ (หลุมที่ลึกจะทำให้เมล็ดงอกช้าได้)
  4. นำเมล็ดมาคลุกแป้งให้ทั่วเพื่อให้เห็นเมล็ดได้ง่ายระหว่างเพาะเนื่องจากเมล็ดมีสีดำ  ระวังอย่าผสมแป้งมากเกินไป ทำการวางเมล็ดลงไป 1 หลุม ต่อ 1 เมล็ด
  5. ทำการกลบเมล็ดโดยใช้พีทมอสที่ยังไม่ได้ผสมน้ำใส่ตะกร้า ร่อนกลบให้มิดเมล็ด ระวังอย่ากลบหนาจนเกินไปจะทำให้เมล็ดงอกช้าพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา Propamocarb hydrochloride (อัตรา 1.0 ซี.ซี ต่อน้ำ 1 ลิตร) ย้ายไปไว้ในทีพรางแสง 80 – 90% พ่นน้ำฝอยละเอียดทำมุมเฉียงขึ้นให้น้ำตกลงบนวัสดุเพาะ อย่าให้โดนวัสดุเพาะโดยตรงและอย่าปล่อยให้แห้งจะทำให้เมล็ดไม่งอกได้ ในระยะนี้จะใช้เวลประมาณ 7-10 วันในการงอก 

การย้ายปลูกลงถุงหรือกระถาง

  1. เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 20-25 วัน หลังย้ายลงถาดเพาะ หรือมีใบจริง 2 คู่ใบขึ้นไป
  2. ก่อนย้ายกล้า งดให้น้ำต้นกล้า เพื่อให้ดินเกาะรากต้นกล้า ตุ้มไม่แตกเมื่อนำมาลงแปลง 
  3. ดึงต้นกล้าเบาๆ พร้อมดินหุ้มรากไปมากๆ เพื่อรากจะได้รับความกระทบกระเทือนน้อยที่สุด 
  4. ย้ายปลูกต้นกล้าลงถุงพลาสติก โดยการเจาะหลุมดินให้ลึกและกว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา แล้วนำต้นกล้าหยอดลงในหลุมแล้วกลบด้วยดิน
  5. ดูแลต้นกล้าจนกระทั่งต้นโต

การย้ายปลูกต้นกล้าลงแปลง

  1. อายุกล้าหลังย้ายลงถาดเพาะประมาณ 15-20 วัน หรือมีใบจริง 2 คู่ใบขึ้นไป  ย้ายลงแปลงปลูก
  2. ก่อนย้ายกล้า งดให้น้ำต้นกล้า เพื่อให้ดินเกาะรากต้นกล้า ตุ้มไม่แตกเมื่อนำมาลงแปลง
  3. ดึงต้นกล้าเบาๆ พร้อมดินหุ้มรากไปมากๆ เพื่อรากจะได้รับความกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
  4. ให้น้ำในแปลงปลูกอย่างเพียงพอ ไม่แห้งหรือแฉะจนเกินไป เพราะถ้าขาดน้ำ ต้นกล้าอาจเหี่ยว และตายได้ เพราะรากต้นกล้าไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยง
  5. การวางสายน้ำ สายน้ำหยดต้องอยู่ตรงกับรอยเจาะของรูพลาสติก เพื่อที่น้ำจะหยดลงในจุดที่ปลูกต้นกล้าด้วย ซึ่งจะทำให้ต้นกล้าได้รับน้ำอย่างเพียงพอ

หลักการปฏิบัติในการย้ายปลูก

  1. ย้ายต้นกล้าในตอนที่แดดอ่อนและในร่ม

  2. เตรียมแปลงปลูกอย่างดี รดน้ำแปลงให้ดินชื้นก่อนการย้ายปลูก

  3. ดึงต้นกล้าเบาๆ พร้อมดินหุ้มรากไปให้มากๆ เพื่อรากจะได้รับความกระทบกระเทือนน้อยที่สุด

  4. ปลูกในหลุมที่กว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา และควรปลูกให้ใบจริงอยู่ใกล้กับระดับดินมากที่สุด เพื่อที่เวลารดน้ำต้นกล้า จะไม่หักล้มง่าย และแก้ปัญหาต้นกล้ายืด

การเตรียมดินปลูกสำหรับบรรจุลงกระถาง

         การเตรียมดินปลูกต้องพิถีพิถันพอสมควร  เพราะไม้ดอกส่วนใหญ่มีอายุการออกดอกสั้น โดยเฉพาะไม้ดอกที่ไวต่อแสงจะออกดอกทันทีเมื่อครบอายุและต้นสมบูรณ์  ดินปลูกต้องเป็นดินโปร่ง ร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง ระบายน้ำดี  ในขณะเดียวกันอุ้มความชื้นได้ดีพอสมควร มีความเป็นกรดเล็กน้อย มี pH ประมาณ 6.5 – 7 ส่วนผสมของดินปลูกควรหาง่ายในท้องถิ่น  สำหรับดินผสม  1  ลูกบาศก์เมตร  ควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร  15 – 15 – 15  จำนวน  0.5  กิโลกรัม  และสูตร 0 – 46 – 0   จำนวน  1  กิโลกรัม   ผสมกันตามสัดส่วน  

  • สูตรที่ 1 ส่วนประกอบดินผสมโดยทั่วไป  ได้แก่  ดินร่วน  ปุ๋ยหมัก  แกลบดิบ   แกลบเผา   ขุยมะพร้าว อัตราส่วน  1 : 1 : 2 : 2 : 2
  • สูตรที่ 2 ส่วนประกอบดินผสมโดยทั่วไป  ได้แก่ แกลบดิบ  ขุยมะพร้าว  ดิน   อัตราส่วน 3 : 5 : 2
  • สูตรที่ 3 ขุยมะพร้าว  ทรายหยาบ  + โดโลไมท์  อัตราส่วน 3 : 1 +โดโลไมท์ อัตราส่วนผสมรวมกัน 240 ลิตร ( ขุยมะพร้าว 180 ลิตร + ทรายหยาบ 60 ลิตร  ใช้โดโลไมท์ 0.5 กก.)
  • หรือ ทั้งนี้สามารถดัดแปลงสูตรได้ตามความเหมาะสม ตามประสบการณ์ หรือคู่มืออื่นๆ

ดินปลูกสำหรับปลูกลงแปลง

  1.  ไถพรวนและพลิกหน้าดินตากไว้ประมาณ 7 – 10 วัน เพื่อกำจัดวัชพืช
  2. หลังจากนั้นให้ทำการไถคราดเพื่อกำจัดวัชพืชออกให้หมดและทำให้ดินร่วนซุย ให้รากพืชเดินได้สะดวกเหมาะสำหรับการปลูก
  3. ถ้าดินมีปัญหาโดยมีค่าความเป็นกรด ด่าง น้อยกว่า 6. 5 ควรเติมปูนขาวเพื่อปรับสภาพ pH ของดิน อัตรา 100 – 300 กก./ไร่ ในขณะใส่ปูนขาวดินควรมีความชื้นเพื่อให้ปูนทำปฏิกิริยากับดินได้ดียิ่งขึ้น และปล่อยทิ้งไว้ 1 สัปดาห์
  4. ผสมปุ๋ยสูตร 15 – 15 – 15 รองพื้น ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อปรับสภาพดินให้ร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดี และเพิ่มแร่ธาตุในดิน
  5. จากนั้นตีพรวนดินให้ละเอียด และขึ้นแปลงปลูก ขนาด 1.20 เมตร สำหรับแปลงคู่ และ 70-80 ซม. สำหรับแปลงเดี่ยว คามความยาวของขนาดพื้นที่
  6. คลุมด้วยพลาสติกสองหน้าสีดำ-เงิน โดยสีเงินอยู่ด้านบน 

การจัดการและดูแลหลังการย้ายปลูก

การให้น้ำ ควรให้น้ำทุกวันในตอนเช้าหรือเย็น เมื่อเริ่มมีดอก อย่ารดน้ำให้ถูกดอก เพราะอาจจะทำให้ดอกช้ำหรือเน่าได้ การให้น้ำควรให้สภาพดินชุ่มสลับแห้ง ไม่ควรให้ชุ่มตลอดเวลา เพราะอาจเป็นสาเหตุของโรครากเน่า โคนเน่า และทำให้ระบบรากไม่พัฒนา ส่งผลให้ต้นไม่สมบูรณ์ 

การให้ปุ๋ย

  • ระยะที่ 1 เสริมสร้างการเจริญเติบโตของราก ลำต้นและใบ หลังจากย้ายกล้าแล้วประมาณ 7 วัน ให้ปุ๋ยไนโตรเจนสูง เช่น สูตร 15 – 0 – 0 หรือ 25 – 7 – 7 ในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 20 ลิตร รดทุกๆ 5 – 7 วัน ประมาณ 2 – 3 ครั้ง
  • ระยะที่ 2 ช่วงการเจริญเติบโตถึงระยะสังเกตเห็นตุ่มดอก ให้ปุ๋ยสูตร 15 - 15 - 15 อัตรา 75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน จนกระทั่งดอกเริ่มบาน
  • ระยะที่ 3 เมื่อดอกเริ่มบาน ให้ปุ๋ยสูตร ให้ปุ๋ยสูตร 8 – 24 – 24 หรือ 13 – 13 – 21 อัตรา 75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน ต่อเนื่องตลอดอายุการให้ดอก

 **ข้อควรระวังในการให้ปุ๋ย 

การให้ปุ๋ยเม็ด ระวังอย่าให้โดนโคนต้นเพราะอาจทำให้เน่าและไหม้ได้ ควรฝังลงดินหรือใช้ดินกลบ

การให้ปุ๋ยน้ำ อาจสัมผัสโดนใบและทำให้ใบไหม้ได้ ดังนั้นเมื่อรดปุ๋ยแล้วให้รดน้ำเพื่อล้างใบตาม

หมายเหตุ : หากไม่สามารถหาปุ๋ยได้ตามสูตร สามารถใช้ปุ๋ยสูตร 15 – 15 – 15 หรือสูตรเสมอทดแทนได้ทุกระยะ แต่การเจริญเติมโตอาจไม่ดีเท่าสูตรที่แนะนำ หรือสำหรับบางท่านที่ไม่สะดวกในการให้ปุ๋ยบ่อยครั้ง สามารถใช้ปุ๋ยละลายช้า สูตร 14 – 14 – 14 แนะนำเป็นตัว เนเจอร์ โค้ท สามารถปลดปล่อยธาตุอาหารพืช ได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ นานถึง 3 เดือน แต่จะไม่ดีเท่าการให้ปุ๋ยตามระยะ 

Short URL :