ดอกกลมสีแดงสด ขนาดประมาณ 3 ซม. ทรงต้นสูง ประมาณ 75 ซม. เหมาะสำหรับเป็นไม้ตัดดอก ปลูกประดับแปลง และทำดอกไม้แห้ง ทนกับสภาพอากาศร้อนได้ดี ไม่ชอบน้ำมากจนเกินไป
วัสดุอุปกรณ์
- ถาดเพาะ หรือ ตะกร้าเพาะ
- พีทมอส ( วัสดุเพาะ )
- เมล็ดพันธุ์ดอกไม้
- ป้ายชื่อพันธุ์ดอกไม้
- บัวรดน้ำแบบฝอยละเอียด
- สารเคมี Propamocarb hydrochloride
การเพาะเมล็ด
- ทำการผสมพีทมอสกับสารเคมีกันเชื้อรา Propamocarb hydrochloride (อัตรา 0.4 ซี.ซี ต่อน้ำ 1 ลิตร) คลุกเคล้าให้เข้ากันสังเกตวัสดุเพาะจับตัวเป็นก้อนและมีน้ำซึมตามร่องนิ้วเล็กน้อย
- ใส่วัสดุเพาะลงในตะกร้าหนาประมาณครึ่งนิ้ว ปาดผิวหน้าวัสดุเพาะให้เรียบ พ่นน้ำให้ชุ่ม
- ใช้ไม้บรรทัดเกลี่ยผิววัสดุให้เรียบ ทำร่องรูปตัววีลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 3 เซนติเมตร
- ทำการหว่านในตะกร้าให้กระจายอย่าให้ติดกันเป็นกระจุกเพราะจะยากต่อการย้ายลงถาดเพาะ
- ย้ายไปไว้ในทีพรางแสง 80 – 90% พ่นน้ำฝอยละเอียด และอย่าปล่อยให้วัสดุแห้งจะทำให้เมล็ดไม่งอกได้ ในระยะนี้จะใช้เวลประมาณ 4-5 วันในการงอก
- เมื่อต้นกล้ามีใบเลี้ยง 1 คู่แล้วซึ่งจะใช้ระยเวลาประมาณ 7-8วัน จึงทำการย้ายต้นกล้าลงถาดเพาะต่อไป
การเพาะเมล็ดในตะกร้า
- เตรียมวัสดุเพาะ 2 ส่วน:ทรายละเอียด 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- เตรียมตะกร้า และนำกระดาษหนังสือวางในตะกร้า เพื่อกันวัสดุเพาะไหลออก
- นำวัสดุเพาะที่เตรียมไว้บรรจุในตะกร้า ความหนาประมาณ 2-3 เซนติเมตร
- นำไม้ทำร่อง ความลึกประมาณ 0.5 เซนติเมตร รดน้ำด้วยหัวฝอยแบบละเอียด
- โรยเมล็ดตามร่อง แล้วกลบด้วยวัสดุเพาะละเอียดโดยร่อนผ่านตะกร้าบางๆ
- เมื่อกล้าอายุประมาณ 5 วัน ย้ายต้นกล้าลงในถาดเพาะ
- อยู่ในถาดเพาะประมาณ 10-14 วัน จึงย้ายลงปลูก
การย้ายปลูกลงถุงหรือกระถาง
- เมื่อต้นกล้า มีอายุ 12 วัน หลังจากย้ายลงถาดเพาะ ให้สังเกตุต้นกล้า เริ่มมีใบจริง 2-3 คู่ใบขึ้นไป ย้ายลงกระถางขนาด 6 นิ้ว หรือถุงดำ ขนาด 4*8 นิ้ว
- โดยเจาะหลุมดินให้ลึกและกว้างพอดีกับดินที่หุ้มรากมา แล้วนำต้นหยอดลงในหลุมแล้วกลบด้วยดิน
- ควรปลูกให้ใบจริงอยู่ใกล้กับระดับดินมากที่สุด เพื่อที่เวลารดน้ำต้นกล้า จะไม่หักล้มง่าย และแก้ปัญหาต้นกล้ายืดผิดปกติได้
หลักการปฏิบัติในการย้ายปลูก
- ย้ายต้นกล้าในตอนที่แดดอ่อนและในร่ม
- เตรียมแปลงปลูกอย่างดี รดน้ำแปลงให้ดินชื้นก่อนการย้ายปลูก
- ก่อนย้ายต้นกล้า ให้รดน้ำต้นกล้าให้ชุ่มก่อนทำการย้ายปลูก ดึงต้นกล้าเบาๆหรือใช้ใช้แหนบคีบ พร้อมดินหุ้มรากไปให้มากๆ เพื่อรากจะได้รับความกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
- ปลูกในหลุมที่กว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา และควรปลูกให้ใบจริงอยู่ใกล้กับระดับดินมากที่สุด เพื่อที่เวลารดน้ำต้นกล้า จะไม่หักล้มง่าย และแก้ปัญหาต้นกล้ายืด
- รดน้ำให้ชุ่มโดยใช้บัวรดแบบฝอยละเอียด
สูตรดินผสมสำหรับย้ายปลูกลงถุงหรือกระถาง
- ดินร่วน 1 ส่วน
- แกลบดิบ 2 ส่วน
- แกลบดำ 1 ส่วน
- ปุ๋ยคอก 1 ส่วน
- กาบมะพร้าวสับเล็ก 2 ส่วน
- โดโลไมท์ เพื่อปรับสภาพความเป็น กรด-ด่างในดิน 0.5 กิโลกรัม
- ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 อัตรา 250 กรัม
การดูแลรักษา
การให้น้ำ ควรรดน้ำทุกวันในตอนเช้าหรือเย็น หากรดน้ำในเวลาเย็นควรให้น้ำ ที่ค้างอยู่บนใบแห้งก่อนพระอาทิตย์ตกดิน และเมื่อมีดอกบาน อย่ารดน้ำให้ถูกดอกเพราะอาจทำให้ดอกช้ำหรือเน่าได้ การให้น้ำควรให้สภาพดินชุ่มสลับแห้ง ไม่ควรให้ชุ่มตลอดเวลา เพราะอาจเป็นสาเหตุของโรครากเน่า โคนเน่า และทำให้ระบบรากไม่พัฒนา ส่งผลให้ต้นแคระแกร็น ไม่สมบูรณ์ สามารถสังเกตสีของดินหรือวัสดุเพาะ หากมีสีดำหรือน้ำตาลเข้ม แสดงว่าดินยังชุ่มหรือมีน้ำอยู่ เมื่อดินเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลอ่อน แห้งแข็ง แสดงว่าดินขาดน้ำ
การให้ปุ๋ย
ปุ๋ยสูตรน้ำ
ระยะที่ 1 เสริมสร้างการเจริญเติบโตของราก ลำต้นและใบ หลังจากย้ายกล้าแล้วประมาณ 7 วัน ให้ปุ๋ยไนโตรเจนสูง เช่น สูตร 15 – 0 – 0 หรือ 25 – 7 – 7 ในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 20 ลิตร รดทุกๆ 5 – 7 วัน ประมาณ 2 – 3 ครั้ง
ระยะที่ 2 ช่วงการเจริญเติบโตถึงระยะสังเกตเห็นตุ่มดอก ให้ปุ๋ยสูตร 15 - 15 - 15 อัตรา 75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน จนกระทั่งดอกเริ่มบาน
ระยะที่ 3 เมื่อดอกเริ่มบาน ให้ปุ๋ยสูตร ให้ปุ๋ยสูตร 8 – 24 – 24 หรือ 13 – 13 – 21 อัตรา 75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน ต่อเนื่องตลอดอายุการให้ดอก
ปุ๋ยเม็ด
สามารถให้ปุ๋ยสูตรต่างๆ เหมือนสูตรน้ำ ระยะที่ 1 – 3 อัตรา 10 กรัม/ต้น ทุกๆ 7 วัน โดยฝังลงในดินหรือใช้ดินกลบ
ข้อควรระวัง :
-
การให้ปุ๋ยเม็ด ระวังอย่าให้โดนโคนต้นเพราะอาจทำให้เน่าและไหม้ได้ ควรฝังลงดินหรือใช้ดินกลบ
-
การให้ปุ๋ยน้ำ อาจสัมผัสโดนใบและทำให้ใบไหม้ได้ ดังนั้นเมื่อรดปุ๋ยแล้วให้รดน้ำเพื่อล้างใบตาม
หมายเหตุ : หากไม่สามารถหาปุ๋ยได้ตามสูตร สามารถใช้ปุ๋ยสูตร 15 – 15 – 15 หรือสูตรเสมอทดแทนได้ทุกระยะ แต่การเจริญเติมโตอาจไม่ดีเท่าสูตรที่แนะนำ หรือสำหรับบางท่านที่ไม่สะดวกในการให้ปุ๋ยบ่อยครั้ง สามารถใช้ปุ๋ยละลายช้า สูตร 14 – 14 – 14 แนะนำเป็นตัว เนเจอร์ โค้ท สามารถปลดปล่อยธาตุอาหารพืช ได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ นานถึง 3 เดือน แต่จะไม่ดีเท่าการให้ปุ๋ยตามระยะ
Short URL :