ผลกลมรีสีขาวครีม ขั้วเหนียว ติดผลง่ายสม่ำเสมอ เนื้อหนาสีส้ม หวานกรอบ มีกลิ่นหอม ความหวาน 14-17 บริกซ์ น้ำหนัก 1.5-2.0 กก. ปลูกได้ตลอดปี สามารถเก็บผลผลิตได้นาน
การเตรียมแปลง
- ไถดินลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ตากดินไว้ประมาณ 7-10 วัน หว่านปูนขาวหรือปูนโดโลไมท์ให้ทั่วแปลงเพื่อปรับสภาพดิน อัตรา 500-1,000 กก./ไร่
- ใส่ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก อัตรา 1,000-1,500 กก./ไร่ -ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 รองพื้นอัตรา 20-30 กก./ไร่
- ไถยกร่องกว้าง 1-1.2 เมตร สำหรับปลูกแถวคู่ ระยะห่างระหว่างแถวปลูก 80 เซนติเมตร ระยะระหว่างต้น 40-50 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างแปลงประมาณ 1.5-2 เมตร โดยมีความยาวตามขนาดของพื้นที่
- คลุมด้วยพลาสติกสองหน้าสีดำ-เงิน โดยสีเงินอยู่ด้านบน
การเพาะเมล็ด
- แช่ด้วยน้ำอุ่น 4-6 ชั่วโมง
- นำผ้าชุบน้ำและบิดให้หมาด แล้วนำเมล็ดมาห่อในผ้าที่เตรียมไว้
- หลังจากรากงอก 0.5 ซม. นำไปหยอดในถาดเพาะที่เตรียมไว้ โดยหยอดหลุมละ 1 เมล็ด (ควรใช้พีทมอสสำหรับเพาะกล้าโดยเฉพาะ)
- การดูแลรักษาควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้พีทมอสแห้ง ได้รับแสงแดดเพียงพอ ควบคุมดูแลเรื่องโรคและแมลงที่จะมารบกวน
การย้ายปลูก
- เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 8-10 วัน หรือมีใบจริง 1-2 ใบ ให้ย้ายลงแปลงปลูก โดยก่อนย้ายลงแปลง ต้องให้น้ำในแปลงปลูกอย่างเพียงพอ ไม่แห้งหรือแฉะเกินไป (แนะนำให้ย้ายในช่วงเย็นเพื่อให้ต้นกล้าฟื้นตัวในช่วงกลางคืน)
การจัดการดูแลรักษา
การให้ปุ๋ย แบ่งเป็น 3 ระยะ
- ปุ๋ยสูตร15-0-0 + 15-15-15 ในอัตราส่วน 1:1 ช่วงอายุ 15 วันปริมาณ 1-2 กรัม/ต้น ใช้บำรุงต้นและใบ
- ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ช่วงอายุ 25 วัน ในปริมาณ 2 กรัม/ต้น
- ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ช่วงอายุ 40 วัน ขึ้นไป ปริมาณ 2 กรัม/ต้น ขยายผล และเพิ่มความหวาน (แนะนำให้ฉีดพ่นแคมเซียมโบรอน ทุก5-7วัน)
การเก็บเกี่ยว
- นับอายุตั้งแต่หยอดเมล็ดประมาณ 60-65 วัน สังเกตรอยแตกปริของขั้วผล
- สังเกตจากสีผิว ถ้าเป็นพันธุ์ผิวเรียบ ผิวจะเป็นมันเรียบสีนวลตามสายพันธุ์ แต่ถ้าเป็นพันธุ์ที่มีตาข่าย จะสังเกตเห็นตาข่าย นูนเด่นชัดเจน
- สังเกตจากกลิ่น ถ้าเป็นแคนตาลูปพันธุ์ที่มีกลิ่นหอม ถ้าสุกกลิ่นจะเริ่มหอม